ประเทศ จอร์เจีย ด้วยเอกลักษณ์ประจำประเทศคือเป็นประเทศที่ท่องเที่ยวได้ 4 ฤดู ชวนให้ใครหลายคนอยากจองตั๋วเครื่องบินไปจอร์เจีย เพื่อเที่ยวสักครั้ง จนกลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันอย่างติดปาก หลายบริษัททัวร์มีการจัดทัวร์ไปจอร์เจีย เพื่อสนองความต้องการของเหล่านักท่องเที่ยว ที่ต้องการชมความงามของธรรมชาติของประเทศที่สวยงามแห่งนี้
สำหรับคนที่อยากทำความรู้จักประเทศจอร์เจีย ที่เที่ยวที่นี่มีดียังไง จะสวยงามขนาดไหน เราจะมาวันนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จัก จอเจีย ประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่า ประเทศสองทวีป ว่าจะมีความรีวิว 20 สถานที่ท่องเที่ยวสวยงามขนาดไหน ผ่านการรีวิว 20 สถานที่ท่องเที่ยว ที่ทำให้คุณอยากรีบกดจองตั๋วเพื่อไปชมสถานที่เหล่านี้อย่างแน่นอน
Alt – อยากไปเที่ยวต้องอ่าน ! รีวิว 20 สถานที่เที่ยวจอร์เจีย
ทำความรู้จักประเทศจอร์เจีย
ในสุดขอบของสองทวีปเอเชียและยุโรป มีประเทศหนึ่งที่ได้รับอิทธิพลทางด้านการใช้ชีวิต สถาปัตยกรรมของทั้ง 2 ทวีปรวมกัน ซึ่งประเทศนั้นคือ ‘จอร์เจีย’ ซึ่งด้วยเหตุนี้นั่นเอง ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในจุดเช็คอินสุดแสนสวยงามของเหล่านักท่องเที่ยวทั้งหลายที่อยากมาที่นี่และสัมผัสความงามของธรรมชาติหนีความวุ่นวายของในเมือง มาใช้ชีวิตในช่วงสั้น ๆ ณ ที่แห่งนี้
จอร์เจียควรเที่ยวช่วงเดือนไหนดี?
ประเทศจอร์เจีย เป็นประเทศที่ทำให้คุณสามารถ มีวันเที่ยวแห่งชาติได้ตลอดทั้งปี โดยที่ไม่ต้องรอวันหยุด เป็นประเทศที่สามารถเที่ยวได้ ทั้ง 4 ฤดู (ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว) เพราะสถานที่เที่ยวของที่นี่ จะมีความงามที่แตกต่างออกไปในแต่ละฤดู และบางสถานที่จะสวยและเหมาะกับบางฤดู เพราะฉะนั้นเพื่อให้คุณไม่พลาดสถานที่เที่ยวแต่ละที่คุณควรศึกษา กันก่อน !
เที่ยวจอร์เจียช่วง ฤดูใบไม้ผลิ : มีนาคม – พฤษภาคม
ฤดูแห่งการเบ่งบานของเหล่าพืชพรรณนานาชนิด หากใครชื่นชอบความสดใส และสะพรั่งของเหล่าดอกไม้ ต้องมาเที่ยวจอร์เจียช่วงฤดูนี้ คุณจะได้สัมผัส บรรยากาศแห่งธรรมชาติ และเทศกาลอีสเตอร์ที่ผู้คนจะเฉลิมฉลองตามพิธีทางศาสนา
สถานที่เที่ยวที่เหมาะในช่วงนี้ : ล่องแพชมแม่น้ำ Aragvi หรือจะเที่ยวตามวิหารหรือโบสถ์ต่าง ๆ เช่น Svetitskhoveli Cathedral Jvari Church หรือโบสถ์ไม้กางเขน บนเนินเมืองมิชเคทา
เที่ยวจอร์เจียช่วง ฤดูร้อน : มิถุนายน – สิงหาคม
หน้าร้อนของที่จอร์เจีย คนไทยไม่ต้องห่วง ร้อนไม่เท่าหน้าร้อนประเทศไทยอย่างแน่นอน เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการท่องเที่ยวจอร์เจียเพื่อชมธรรมชาติ และความเขียวขจีของพืชพรรณเป็นอย่างมาก โดยกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวมักจะทำในช่วงนี้คือ เที่ยวปีนเขา ชมดอกไม้และธรรมชาติ หรือพักผ่อนหย่อนใจแถวริมชายฝั่งทะเล
สถานที่เที่ยวที่เหมาะในช่วงนี้ : ชายฝั่งเมืองทบิลิซิ หรือเที่ยวชมสถาปัตยกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองบาทูมี
เที่ยวจอร์เจียช่วง ฤดูใบไม้ร่วง : กันยายน – พฤศจิกายน
ช่วงที่เต็มไปด้วยสีเหลืองและสีแดงของใบไม้ที่ร่วงลงมา พร้อมอากาศที่เย็นสบาย ทำให้ใครหลายคนโปรดปรานฤดูนี้เป็นพิเศษ นอกจากนี้ในช่วงเดือนตุลาคมยังมีเทศกาลบิลิโซบา ซึ่งเปรียบเสมือนเทศกาลเก็บเกี่ยวของจอร์เจีย อีกด้วย
สถานที่เที่ยวที่เหมาะในช่วงนี้ : ภูเขาตามเมืองต่าง ๆ เพื่อเที่ยวชมการเปลี่ยนสีของใบไม้และวิวทิวทัศน์ที่งดงาม หรือหากใครชอบงานรื่นราง ที่นี่ก็จะมีการจัดเทศกาลทบิลิโซบา ที่มีการเต้นรำ ทานอาหารพื้นเมือง และชิมไวน์
เที่ยวจอร์เจียช่วง ฤดูหนาว : ธันวาคม – กุมภาพันธ์
หากพูดถึงฤดูหนาวต้องพูดถึงหิมะ สถานที่ท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวของจอร์เจียส่วนใหญ่จะเป็นภูเขา เพราะเป็นช่วงที่มีกิจกรรม กีฬายอดฮิตอย่างการเล่นสกี เล่นเลื่อนหิมะ ทำให้ภูเขาเป็นจุดมุ่งหมายแรกของใครหลายคนเมื่อมาที่นี่ นอกจากนี้ยังมีทัศนียภาพของภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะอีกด้วย เรียกได้ว่าใครได้เห็นต้องหลงใหลอย่างแน่นอน
สถานที่เที่ยวที่เหมาะในช่วงนี้ : เล่นสกีตามรีสอร์ทบนภูเขาต่าง ๆ ชมวิวหิมะปกคลุมเทือกเขาคอเคซัส หรือจะเที่ยวเมืองกูเดาริ และเมืองบอร์โจมิ
การเดินทางไปจอร์เจียควรเตรียมตัวอย่างไร
Alt – เตรียมตัวก่อนไปเที่ยวจอร์เจีย ต้องเตรียมอะไรบ้าง
ขอบคุณรูปภาพจาก freepik.com
เรียกได้ว่าเป็นข่าวดีสำหรับคนไทยที่อยากไปจอร์เจียเลยก็ว่าได้ เพราะที่นี่คุณไม่ต้องเตรียมเอกสารอะไรมากมาย คนไทยสามารถเดินทางเข้ามาเลยโดยไม่ต้องขอวีซ่า สิ่งที่คุณต้องเตรียมตัวมีแค่เรื่อง จองตั๋วเครื่องบิน แลกเปลี่ยนสกุลเงิน ให้พร้อม ! หรือถ้าใครยังไม่มีข้อมูลตรงส่วนนี้ ไม่ต้องกังวลไป เราเตรียมรวบรวมข้อมูลเหล่านี้มาให้ท่านไว้ในที่นี่แล้ว !
เอกสารที่จำเป็นในการเดินทางเข้าจอร์เจีย
อย่างทีกล่าวไปข้างต้น จอเจีย เป็นประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า คุณแค่มี Passport ก็สามารถเข้ามาในประเทศจอร์เจียได้แล้ว
แต่ต้องขอบอกก่อนว่าเนื่องจากช่วงสถานการณ์ที่ผ่านมา มีการระบาดของ COVID-19 ทำให้ช่วงนี้ต้องแสดงหลักฐาน Rapid Antigen Test เพื่อความปลอดภัยของทุกคนนั้นเอง เพราะฉะนั้นเพื่อให้แน่ใจเราควรเช็กให้ดีว่าช่วงนั้นเขาต้องการผลทดสอบ COVID-19 หรือไม่
แลกเปลี่ยนสกุลเงินให้พร้อม
ค่าเงินจอร์เจีย หรือลารีจอร์เจีย (Georgian Lari) มีค่าประมาณ 1 ลารีจอร์เจียมีค่าประมาณ 10.59 บาท แต่สำหรับคนไทย หากอยากจะแลกสกุลเงินของจอร์เจียนั้น เราจะต้องทำการแลก US หรือ Euro ไปก่อน เพื่อนำไปแลกลารีที่จอร์เจียนนั่นเอง
วิธีจองตั๋วเครื่องบินไปจอร์เจีย
Alt – จองตั๋วเครื่องบินไปกรุงเทพ-ทบิลิซี สนามบินจอร์เจีย
ขอบคุณรูปภาพจาก freepik.com
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น หากคุณอยากเที่ยวจอร์เจีย คุณไม่ต้องกังวลไปไม่ต้องวางแผนให้วุ่นวาย ว่าจะตรงกับช่วงฤดูเที่ยวของจอร์เจียหรือ ไม่เพราะที่นี่ เที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู ทำให้วันเที่ยวแห่งชาติมีได้ตลอดทั้งปี สำหรับจอร์เจีย เห็นแบบนี้แล้วต้อง…
รีบหยิบมือถือแล้วกดเข้าแอป เพื่อ ตั๋วเครื่องบินไปจอร์เจีย แล้ว เพราะแอปนี้มีครบทุกอย่าง จะจองตั๋วเครื่องบิน รถไฟ หรือถ้าคุณกลัวว่าร้านอาหารที่คุณอ่านตามรีวิวจะเต็ม ก็สามารถกดจองล่วงหน้าผ่านแอปได้เลย เรียกได้ว่า ครบจบในแอปเดียว !
โดยหากอยากจองตั๋วไปจอร์เจียทำได้ง่าย ๆ ผ่านแอปเพียง 3 ขั้นตอน
- เลือกวันที่เที่ยว เลือกสนามบินที่จะลง ส่วนใหญ่จะเป็น สนามบินนานาชาติทบิลิซี (Tbilisi International Airport)
- เลือกสายการบินที่ต้องการ
- ชำระเงิน ง่าย ๆ รองรับทุกช่องทาง
เพียงเท่านี้ก็สามารถ วันเที่ยวแห่งชาติ ก็รอเพียงแค่ถึงวันออกเดินทางแล้ว !
การเดินทางไปที่จอร์เจีย
การเดินทางมาประเทศจอร์เจียนั้น หากจากประเทศไทย ส่วนใหญ่จะจองตั๋วเครื่องบิน มาลงสนามบินหลักของจอร์เจีย ซึ่งก็คือสนามบินนานาชาติทบิลิซี (Tbilisi International Airport) นั่นเอง หรือถ้าประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงของจอร์เจีย จะใช้การเดินทางโดย รถไฟ เพื่อชมทัศนียภาพระหว่างทางที่สวยงามนั่นเอง
20 สถานที่น่าเที่ยวในจอร์เจีย ที่คุณไม่ควรพลาด
มาถึงแล้วกับช่วงรีวิวของดีประเทศจอร์เจีย สถานที่ท่องเที่ยวนั่นเอง ! โดยในส่วนนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสถานที่เที่ยว 20 แห่งในจอร์เจีย ที่เที่ยวจะมีที่ไหนน่าสนใจบ้างลองมาดูกันได้เลย
1. Narikala Fortress (ป้อมปราการนาริกาลา)
Alt – ป้อมปราการนาริกาลา หนึ่งในที่เที่ยวจอร์เจีย
ขอบคุณรูปภาพจาก freepik.com
ป้อมปราการนาริกาลา ชื่อที่เป็นภาษาเปอร์เซีย มาจากคำว่า ป้อมที่ไม่สามารถแตกได้ ด้วยความที่มีจุดเด่นสมชื่อ จึงที่หมายตาของหลายชาติ ซึ่งเปนเหตุให้มีการเปลี่ยนเจ้าของการปกครองอยู่หลายรอบ โดยมีทั้งอาหรับ มองโกล เปอร์เซีย เติร์ก และรัสเซีย
ซึ่งปัจจุบันถูกใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว คุณสามารถมองเห็นความงาม โบสถ์นักบุญนิโคลาส (St. Nicholas Church) และสามารถมองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำมิตควารี ได้จากที่ป้อมนี้ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่จุดเช็คอินที่น่าสนใจของเหล่านักท่องเที่ยวต่างชาติหลายท่าน
2. Kakheti Wine Route (เส้นทางแห่งไวน์ แคว้นคาเคติ)
Alt – เส้นทางแห่งไวน์ แคว้นคาเคติแหล่งไวน์ชั้นดีของจอร์เจีย
ขอบคุณรูปภาพจาก travelaroundtheworld-mag.com
หากพูดถึงแคว้นคาเคติ ทุกคนที่รู้จักจอร์เจียดี จะต้องนึกถึงไวน์นั่นเอง ที่มีเป็นแหล่งองุ่นและที่ทำไวน์ที่โด่งดังและใหญ่ที่สุดในจอร์เจีย ด้วยกรรมวิธีที่ได้รับการส่งต่อมาจากบรรพบุรุษ และยังคงรักษาไว้จนถึงทุกวันนี้ เหมือนกับชื่อเสียงในการผลิตไวน์ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา นั่นเอง
3. Wine Tunnel of Khareba Winery (อุโมงค์เก็บไวน์ของโรงไวน์คาเรบา )
Alt – อุโมงค์ไวน์ แหล่งเก็บไวน์แห่งจอร์เจีย
ขอบคุณรูปภาพจาก travelaroundtheworld-mag.com
แคว้นคาเคติอย่างที่กล่าว คือเป็นแหล่งผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศจอร์เจีย และอุโมงค์แห่งนี้จึงเป็นเหมือนเคล็ดลับในการผลิตของพวกเขา เป็นอุโมงค์ที่ใช้ในการเก็บไวน์ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ซึ่งมีอุโมงค์ทั้งหมด 15 อุโมงค์ เป็นแหล่งที่คอไวน์ หลงใหลในไวน์จะพลาดไม่ได้เลยทีเดียว
4. Caucasus Mountains (เทือกเขาคอเคซัส)
Alt – เทือกเขาคอเคซัส หนึ่งในเทือกเขาที่สวยงามที่สุดในประเทศจอร์เจีย
ขอบคุณรูปภาพจาก freepik.com
เทือกเขาที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นเหมือนปราการธรรมชาติที่แบ่ง เขตระหว่างทวีปยุโรป และ ทวีปเอเชีย ซึ่งหากมาเที่ยวในช่วงฤดูหนาวคุณจะสามารถเห็นความสวยงามตระการตาของหิมะที่ปกคลุมเหล่ายอดเขาต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหล่านักเที่ยวสายแอดเวนเจอร์นั่นฝันอยากจะมาสักครั้ง
5. Monastery of St. Nino at Bodbe (อารามนักบุญนีโน่แห่งบอดบี)
Alt – อารามนักบุญในจอร์เจีย ที่เที่ยวที่งดงาม ต้องนึกถึงอารามนักบุญนีโน่แห่งบอดบี
ขอบคุณรูปภาพจาก travelaroundtheworld-mag.com
อารามของศาสนาคริสต์ นิกายออร์โธดอกซ์ ซึ่งกลายได้มีการบูรณะใหม่ ให้กลับมาสวยดังเดิม โดยชื่อ St. Nino นั้นมาจาก ชื่อของนักบุญที่หลุมศพบรรจุอยู่ในอารามแห่งนี้ ทำให้เหล่าผู้แสวงบุญต่าง ๆ สนใจที่จะมาที่นี่สักครั้ง เพื่อชมความงามและศึกษาประวัติศาสตร์
6. Sighnaghi (เมืองไซห์นากี)
Alt – เที่ยวจอร์เจีย เมืองที่เห็นวิวเทือกเขาต้องเมืองไซห์นากี
ขอบคุณรูปภาพจาก travelaroundtheworld-mag.com
เป็นเมืองที่คุณจะต้องมาถ้าคุณอยากจะเที่ยวที่เทือกเขาคอร์เคซัส เพราะที่นี่เป็นเมืองที่ใกล้เทือกเขาคอร์เคซัส และสามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่สุด นอกจากนี้ ด้วยทัศนียภาพที่สวยงามมีความโรแมนติค จึงทำให้หลายคนขนานนามเมืองนี้ว่าเป็น นครแห่งความรัก (Love City) แห่งประเทศจอร์เจีย เลยทีเดียว
7 . Jvari Monastery (สำนักสงฆ์จวารี)
Alt – มรดกโลกของจอร์เจีย สำนักสงฆ์จวารี
ขอบคุณรูปภาพจาก travelaroundtheworld-mag.com
สำนักสงฆ์ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ห้อมล้อมไปด้วยวิวการบรรจบกันของ 2 แม่น้ำ แม่น้ำมิตควารี (Mtkvari) และแม่น้ำอะรักวี (Aragvi) นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นวิวของเมืองมิสเคตาได้อีกด้วย
ในด้านคุณค่าทางวัฒนธรรม ที่นี่เป็นเหมือนศูนย์กลางทางศาสนาและเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของจอร์เจีย และในปี 1994 องค์การยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนให้ที่นี่เป็นมรดกโลก เพราะเป็นสถานที่ ที่ควรอนุรักษ์และคงคุณค่าในตัวมันเอง
8. Sioni Cathedral (มหาวิหารซิโอนิ)
Alt – มหาวิหารซิโอนิ วิหารที่เก่าแก่ในประเทศจอร์เจีย
ขอบคุณรูปภาพจาก travelaroundtheworld-mag.com
มหาวิหารซิโอนิ เป็นหนึ่งในนมหาวิหารที่มีความเก่าแก่หลังหนึ่งในจอร์เจีย ที่นี่มีประวัติที่น่าสนใจ ด้วยการที่เป็นสถานที่พำนักแห่งสุดท้ายของพระสังฆราชแห่งคริสตจักรหลายพระองค์ และด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งรวมภาพจิตรกรรมและประติมากรรมในยุคสมัยศตวรรษที่ 11 ที่มีความงดงามชวนหลงใหล จนใครหลายคนอยากมาเห็นสักครั้ง
9 .Palace of King of Georgia Erekle II (พระราชวังกษัตริย์จอร์เจีย อีเรเคิลที่ 2)
Alt – พระราชวังกษัตริย์จอร์เจีย อีเรเคิลที่ 2 ในประเทศจอร์เจีย
ขอบคุณรูปภาพจาก travelaroundtheworld-mag.com
พระราชวังกษัตริย์จอร์เจีย อีเรเคิลที่ 2 เป็นที่ ๆ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของกษัตริย์ในสมัยนั้น มีป้อมปราการปกคลุมแน่หนา ที่แห่งนี้ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีมาตลอด และท้ายสุดได้ถูกทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ มีส่วนจัดแสดงให้เห็นถึงความเป็นอยู่ของกษัตริย์ ไม่ว่าจะเป็น บรรยากาศในห้องบรรทม พระราชฐานส่วนใน บัลลังก์ และแม้กระทั่งมีที่เก็บรักษาศาสตราวุธ
10. Old Town Tbilisi (ย่านเมืองเก่าทบิลิซี)
Alt – ย่านเมืองเก่าทบิลิซี สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของคนจอร์เจีย
ขอบคุณรูปภาพจาก travelaroundtheworld-mag.com
แหล่งรวมที่เที่ยวย่านเมืองเก่า โดยที่นี่จะสะท้อนความเป็นอยู่และความเชื่อของบุคคลในสมัยนั้น อย่าง โบสถ์เมเตคี (Metekhi Church) โรงอาบน้ำกำมะถัน (The Abanotubani Bath House) ที่มีประวัติที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก หากคุณอยากมาสัมผัสบรรยากาศเมืองเก่าทบิลิซี และเริ่มต้นท่องเที่ยวที่จอร์เจีย คุณสามารถค้นหาเที่ยวบินจาก กรุงเทพ ทบิลิซี สนามบินนานาชาติในประเทศจอร์เจีย สามารถจองตั๋วเครื่องบินผ่านแอป ที่ช่วยการเดินทางของคุณให้เป็นเรื่องง่าย บริการรายละเอียดจองตั๋วกับสายการบินไป-กลับต่าง ๆ พร้อมบริการจองโรงแรมตามงบที่ลูกค้าตั้งไว้ ด้วย One Stop Service ที่สะดวก รวดเร็ว และจบภายในแอปเดียว
11. Sameba Cathedral (มหาวิหารซาเมบา)
Alt – มหาวิหารซาเมบา มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในจอร์เจีย
ขอบคุณรูปภาพจาก travelaroundtheworld-mag.com
หากคุณชอบความยิ่งใหญ่ คุณต้องมาที่นี่ มหาวิหารซาเมบา ที่ ๆ ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาวิหารที่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจอร์เจีย ที่นี่ตกแต่งด้วยการตกแต่งแบบสมัยใหม่ ทำให้ได้รับการขนานนามว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งจอร์เจียสมัยใหม่นั้นเอง ที่นี่ตั้งอยู่บนเนินเขาริมแม่น้ำคูรา ด้วยความที่มีความสวยงาม มีไฟประดับที่อลังการ ทำให้ที่นี่สามารถถูกมองเห็นได้จากทุกมุมของกรุงทบิลิซี ได้ไม่ยาก
12. Ananuri Fortress (ป้อมอนานูริ)
Alt – จองตั๋วเครื่องบินไปจอร์เจีย ชมธรรมชาติที่แสนสบายของจอร์เจีย
ขอบคุณรูปภาพจาก travelaroundtheworld-mag.com
ไม่มีอะไรดีไปกว่า อากาศที่ดี และทัศนียภาพที่สวยงาม ซึ่งสามารถหาได้ที่ป้อมอนานูริ ที่นี่สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่งดงามของ อ่างเก็บน้ำซินวาลี (Zhinvali) และมีสิ่งปลูกสร้างสุดคลาสสิคอย่าง โบสถ์ของคริสตจักรชาวเวอร์จิน ตั้งอยู่ 2 หลัง หากใครที่ได้มาที่นี่ จะเห็นถึงความเข้ากันอย่างลงตัวของธรรมชาติและ สถาปัตยกรรมที่มีความคลาสสิคได้เต็มตา อย่างแน่นอน
13. Kazbegi (เมืองคาสเบกิ)
Alt – ประตูสู่เทือกเขาคอเคซัส ชมทัศนียภาพที่สวยงามอันดับต้น ๆ ของจอร์เจีย
ขอบคุณรูปภาพจาก travelaroundtheworld-mag.com
เมืองที่ต้อนรับเหล่านักท่องเที่ยว ก่อนที่จะขึ้นสู่เทือกเขาคอเคซัส เป็นเมืองที่ได้รับฉายาว่าเป็น ประตูสู่เทือกเขาคอเคซัส ตั้งอยู่บน Georgian Military Highway ระหว่างการเดินทาง คุณจะเห็นความสวยงามของทัศนียภาพภูเขา
ถ้าหากคุณรู้สึกเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ที่นี่ก็ยังมีสกีรีสอร์ทคอยต้อนรับท่านอยู่ ซึ่งเหตุผลที่มีรีสอร์ทตั้งอยู่แถวนี้คงเพราะว่า ที่นี่มีจุดชมวิวยอดนิยมอย่าง ยอดเขาคาสเบ็ค (Mount Kazbek) ซึ่งเป็นยอดเขาที่ความสวยงามมาก ๆ เลยทีเดียว
14. Upper Svaneti (แคว้นสวาเนติบน)
Alt – อีกจุดที่น่าเล่นสกีในจอร์เจีย แคว้นสวาเนติบน
ขอบคุณรูปภาพจาก travelaroundtheworld-mag.com
ทางเข้าสู่คอเคซัส จุดเล่นสกียอดฮิต ที่เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวที่มาจอร์เจียในฤดูหนาว ด้วยความที่มีโรงแรม ที่พัก อยู่ตามพื้นที่คอยเป็นแหล่งพักผิงให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเล่นสกี แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูร้อนที่นี่จะเปลี่ยนไปอีกแบบ ดอกไม้ และทุ่งหญ้าจะเริ่มงอกงาม จนเป็นที่สนใจของใครหลาย ๆ คน
15. Akhaltsikhe (เมืองอาคาลห์ซี)
Alt – หนึ่งในที่เที่ยวของจอร์เจีย เมืองอาคาลห์ซี
ขอบคุณรูปภาพจาก travelaroundtheworld-mag.com
ป้อมปราการที่ล้อมรับเหล่าสถานที่ต่าง ๆ ที่ปัจจุบันหลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว อย่าง ปราสาทราบาติ (Rabati Castle) ที่ยอดฮิต มาแล้วต้องเช็คอินของเหล่านักท่องเที่ยว หรือจะเป็น สุเหร่าอัคเมดิเย (Akhmediye Mosque) โรงละครกลางแจ้ง โบสถ์ออร์โธดอกซ์ ที่ออกแบบสถาปัตยกรรมได้อย่างงดงาม ด้วยความที่มีความหลากหลาย ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งสถาปัตยกรรมของหลายศาสนาในที่เดียว
16. Gelati Monastery (อารามจีลาติ) และ Bagradi Cathedral (มหาวิหารบากราติ)
Alt – อารามจีลาติ และมหาวิหารบากราติ แหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมของจอร์เจีย
ขอบคุณรูปภาพจาก travelaroundtheworld-mag.com
โบสถ์ทั้ง 2 นี้ เป็นสถาปัตยกรรมเก่า ที่มีจิตรกรรมฝาผนัง บอกเล่าถ่ายทอด เรื่องราวของนักบุญและกษัตริย์จอร์เจีย ทำให้ที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งที่มีคุณค่าด้านวัฒนธรรมของจอร์เจียเป็นอย่างมาก จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม
17. Dadiani Palace History and Architectural Museum (พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมพระราชวังดาเดียนี)
Alt – หน้ากากนโปเลียน ของพิพิธภัณฑ์พระราชวังดาเดียนีในจอร์เจีย
ขอบคุณรูปภาพจาก travelaroundtheworld-mag.com
สำหรับใครที่ชอบวัตถุโบราณ ที่นี่คือที่ ๆ คุณต้องมา พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมพระราชวังดาเดียนี เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคคอเคซัส มีโบราณวัตถุสะสมทั้งหมด 41,000 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็น หนังสือ จดหมายส่วนตัว เครื่องเงิน และงานศิลปะอื่นๆ และสิ่งที่เป็นจุดสงสัยของคนที่มาที่นี่มากที่สุด คงหนีไม่พ้นหน้ากากที่สวมหน้าของนโปเลียนตอนเสียชีวิตในปี 1833 นั่นเอง
18. Uplistsikhe Cave Town (ซากเมืองอุพลิสซิเค)
Alt – ซากเมืองอุพลิสซิเค ศูนย์กลางศาสนาและวัฒนธรรมในจอร์เจีย
ขอบคุณรูปภาพจาก travelaroundtheworld-mag.com
สถานที่นี้ถ้ามองภายนอกอาจจะดูน่ากลัวลึกลับ แต่จริง ๆ แล้วประเทศจอร์เจีย สถานที่ท่องเที่ยวที่นี่คือ เป็นหนึ่งในเมืองถ้ำที่เก่าแก่ในประเทศจอร์เจีย ซึ่งมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรม
เมื่อแต่ก่อน ในเมืองนี้จะมีสถานที่ ที่ถูกใช้ประกอบพิธีกรรมในอดีต อย่างลัทธิบูชาไฟ หรือโบสถ์เก่าแก่ของชาวคริสต์ จนปัจจุบันที่นี่ถูกปล่อยให้ร้างและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งหนึ่งเลยทีเดียว
19. Batumi (เมืองบาตูมี)
Alt – เมืองบาตูมี จอร์เจีย-อนุสาวรีย์อาลีและนีโน่ สถาปัตยกรรมที่มีเสน่ห์
ขอบคุณรูปภาพจาก travelaroundtheworld-mag.com
สาธารณรัฐอิสระอยู่ทางตะวันตกของประเทศจอร์เจีย มีเมืองหลวงอย่างอัดจารา (Ajara) โดยเมืองนี้พื้นที่ด้านหนึ่งล้อมด้วยทิวทัศน์ของทะเลดำ ทำให้ที่นี่สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่งดงามได้ ๆ ที่นี่ยังเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่หนึ่ง เพราะที่นี่เป็นเมืองท่าที่สำคัญในจอร์เจีย นอกจากนี้ยังมีเหล่าสถาปัตยกรรมและสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ มีเสน่ห์ชวนให้คนมาเที่ยวอย่าง
อย่าง
- อนุสาวรีย์อาลีและนีโน่ (Ali and Nino Monument)
- หอคอยชิงช้าสวรรค์ (Ferris Wheels Tower)
- อาคารตัวอักษร (Alphabet Tower)
- หอคอยแห่งบาตูมี (Batumi Tower)
20. Katskhi Pillar Monastery (อารามบนเสาหินคัตส์คี) และ Mgvimevi Cave Monastery (อารามถ้ำแมควิเมวี่)
Alt – อารามบนเสาหินคัตส์คี หนึ่งในสถานที่เที่ยจอร์เจียสุดทึ่ง
ขอบคุณรูปภาพจาก travelaroundtheworld-mag.com
ที่เที่ยวสุดแปลกที่หนึ่งในจอร์เจีย ที่อารามบนเสาหินคัตส์คี เป็นสถานที่แปลกเพราะเป็นโบสถ์เล็ก ๆ ตั้งอยู่บนแท่งหินปูนสูง 40 เมตร มีนักบวชอาศัยเพียงรูปเดียว ไม่มีใครรู้ว่ามีโบสถ์ขึ้นไปอยู่บนนั้นได้อย่างไร
Alt – ที่เที่ยวจอร์เจีย อารามถ้ำแมควิเมวี่
ขอบคุณรูปภาพจาก travelaroundtheworld-mag.com
ส่วนอารามถ้ำแมควิเมวี่ ก็เป็นอีกที่ที่มีความแปลกเช่นกัน เพราะมีการฝังเจาะตัวอารามเข้าไปในหน้าผา จากระเบียงทางเดินริมหน้าผา ทำให้ถึงแม้จะหวาดเสียวสำหรับใครบางคน แต่ปฏิเสธไม่ได้เลย คุณจะเห็นทัศนียภาพที่สวยงามแบบพาโนรามาได้ที่นี่
สรุป
หลังจากที่ทุกคนได้อ่านมาถึงตรงนี้ ทางเราเชื่อว่าหลายคนคงมีความสนใจอยากไปเที่ยวจอร์เจียกันแล้วใช่ไหมครับ รู้อย่างนี้แล้ว ทุกคนต้องรีบจองตั๋วเครื่องบินไปจอร์เจียกันแล้ว เพื่อไปชมความสวยงามทางด้านสถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมของต่างแดนที่มีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก และอย่าลืมหากจะเที่ยวอย่าลืมเตรียมตัวในเรื่องต่าง ๆ ให้เรียบร้อยและที่สำคัญ
อย่าลืมโหลดแอปพลิเคชันจองตั๋วเครื่องบินเพื่อความสะดวกสบายในการจองตั๋วที่พัก เครื่องบิน หรือร้านอาหาร มั่นใจได้ว่าจะช่วยให้คุณสะดวกสบายในยามท่องเที่ยวอย่างแน่นอน